เหตุการณ์ ฆ่าตัวตาย เป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากพบเจอ แต่บางครั้งชีวิตอาจพาเราไปสู่สถานการณ์ที่ไม่คาดคิด จนทำให้เรา กลายเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ การประสบเหตุการณ์แบบนี้สามารถทิ้งร่องรอยทางจิตใจอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นความตกใจ ความกลัว ความเศร้า หรือแม้กระทั่งความรู้สึกผิด นอกจากนี้ ผู้ที่ประสบเหตุการณ์เช่นนี้ยังอาจเสี่ยงต่อ ภาวะเครียดหลังเหตุการณ์ร้ายแรง (PTSD) ซึ่งหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง และสุขภาพจิตในระยะยาว
การเข้าใจและรู้จักวิธี รับมือกับความรู้สึกหลังเห็นเหตุการณ์ฆ่าตัวตาย เป็นสิ่งสำคัญ เพราะแม้คุณจะไม่สามารถย้อนเวลาไปแก้ไขเหตุการณ์นั้นได้ แต่คุณสามารถปกป้องและดูแลจิตใจของตัวเองให้ฟื้นตัวได้
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม
ยอมรับความรู้สึกของตัวเอง
เมื่อเกิดเหตุการณ์ช็อกเช่นนี้ สิ่งแรกที่ควรทำคือ ยอมรับความรู้สึก ของตัวเองอย่างแท้จริง อาจเป็นความตกใจ ความเศร้า ความกลัว หรือความรู้สึกผิด อย่าพยายามกดทับหรือปฏิเสธอารมณ์เหล่านี้ เพราะการพยายามหลีกเลี่ยงความรู้สึกอาจทำให้เกิด ความเครียดสะสม และภาวะวิตกกังวลในอนาคต
การยอมรับความรู้สึกไม่ได้หมายความว่าคุณต้องรู้สึกผิดหรือโทษตัวเอง แต่หมายถึงการให้พื้นที่สำหรับอารมณ์ของคุณเอง เช่น การบันทึกความคิดและความรู้สึกลงในสมุด หรือการพูดคุยกับตัวเองด้วยความเข้าใจ
พูดคุยกับคนที่ไว้ใจได้
การระบายความรู้สึกกับ คนที่คุณไว้ใจ เช่น ครอบครัว เพื่อนสนิท หรือคนใกล้ตัว สามารถช่วยลดความตึงเครียดทางอารมณ์ได้ การพูดคุยช่วยให้คุณไม่รู้สึกโดดเดี่ยว และทำให้คุณมองเห็นมุมมองอื่น ๆ ที่อาจช่วยให้คุณจัดการความรู้สึกได้ดีขึ้น
ในบางครั้ง การเข้ากลุ่มสนับสนุนผู้ที่เคยประสบเหตุการณ์คล้ายกันก็ช่วยให้คุณเข้าใจว่าความรู้สึกของคุณเป็นเรื่องปกติ และสามารถเรียนรู้วิธีรับมือจากผู้อื่น

ดูแลร่างกายและจิตใจ
การดูแลตัวเองในช่วงเวลาหลังเหตุการณ์สำคัญไม่แพ้การดูแลจิตใจ การพักผ่อนให้เพียงพอ การรับประทานอาหารที่เหมาะสม และการออกกำลังกายเบา ๆ เช่น การเดิน การทำสมาธิ หรือการฝึกหายใจลึก ๆ ช่วยให้ร่างกายและสมองฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
กิจกรรมที่ทำให้คุณผ่อนคลาย เช่น การฟังเพลง การอ่านหนังสือ หรือการทำงานอดิเรกที่ชอบ ล้วนช่วยลดความเครียดและสร้างความรู้สึกปลอดภัยให้กับจิตใจ
หลีกเลี่ยงการเสพข่าวหรือข้อมูลซ้ำ
หลังจากประสบเหตุการณ์รุนแรง การเสพข่าวหรือสื่อเกี่ยวกับเรื่องฆ่าตัวตายซ้ำ ๆ อาจทำให้ ความรู้สึกวิตกกังวลและเศร้าลงลึก การให้เวลาตัวเองได้พักจากสื่อหรือข่าวสารช่วยให้จิตใจได้ฟื้นตัวอย่างเป็นธรรมชาติ หากคุณต้องติดตามข่าวสาร ควรเลือกอ่านจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และควรจำกัดเวลาในการรับข้อมูล เพื่อไม่ให้ความเครียดสะสมเพิ่มขึ้น
สังเกตสัญญาณของความเครียดรุนแรง
หลังจากเห็นเหตุการณ์ฆ่าตัวตาย คุณอาจพบอาการต่าง ๆ ที่บ่งบอกว่าจิตใจได้รับผลกระทบรุนแรง เช่น
- นอนไม่หลับ ฝันร้ายบ่อย
2. วิตกกังวลหรือหดหู่เกินปกติ
3. รู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น
4. หลีกเลี่ยงสถานที่หรือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์
5. สูญเสียความสนใจในกิจกรรมที่เคยชอบ
6. การสังเกตตัวเองอย่างใกล้ชิดช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าควรขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญหรือไม่

ปรึกษานักจิตบำบัดหรือผู้เชี่ยวชาญ
หากคุณยังรู้สึกไม่ดีขึ้น หรือมีอาการเครียดสะสม การปรึกษา นักจิตบำบัดหรือจิตแพทย์ เป็นวิธีที่ปลอดภัยและได้ผลที่สุด นักจิตบำบัดจะช่วยให้คุณเข้าใจความรู้สึกของตัวเอง รับมือกับความเศร้าและความผิดหวัง และเรียนรู้วิธีจัดการความเครียดหลังเหตุการณ์รุนแรง
Counselling Thailand ให้บริการด้านสุขภาพจิตที่มีทีม นักจิตบำบัดและผู้เชี่ยวชาญ หลายภาษา พร้อมช่วยเหลือคุณทั้งแบบ ออนไลน์ และ พบตัวต่อตัว ไม่ว่าคุณจะอยู่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ หรือที่ไหนก็สามารถรับบริการได้อย่างสะดวก
บริการของ Counselling Thailand เหมาะสำหรับผู้ที่ประสบเหตุการณ์รุนแรงหรือเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ฆ่าตัวตาย เพราะนักจิตบำบัดสามารถช่วยให้คุณระบายและทำความเข้าใจความรู้สึก ลดความเครียดและอาการวิตกกังวล เรียนรู้เทคนิคการรับมือกับความทรงจำที่เจ็บปวด รวมถึงฟื้นฟูสุขภาพจิตเพื่อกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ
หากคุณกำลังประสบความเครียดหลังเห็นเหตุการณ์ฆ่าตัวตาย อย่าปล่อยให้ความรู้สึกสะสมจนเกินไป ติดต่อ Counselling Thailand เพื่อรับคำปรึกษาและดูแลจิตใจของคุณอย่างมืออาชีพ