เริ่มต้นดูแลสุขภาพใจ

เราเข้าใจว่าการเริ่มต้นเข้ารับคำปรึกษาอาจทำให้คุณกังวล
ไม่ว่าจะเป็นความไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไร หรือสงสัยว่าการปรึกษาจะช่วยคุณได้จริงหรือไม่ เราพร้อมมอบประสบการณ์การปรึกษาที่ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและมั่นใจในทุกขั้นตอน

รับคำปรึกษาเลย

หน้าฝนทำให้เหงา ? 5 วิธีดูแลใจให้ห่างไกลความโดดเดี่ยว

เมื่อฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน หลายคนอาจมองว่าแค่เปียกตัว แต่แท้จริงแล้ว “ใจ” ของเราก็เปียกไปด้วย โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงานที่ต้องทำงานจากบ้านหรือใช้ชีวิตคนเดียวในคอนโด หน้าฝนจึงไม่ใช่แค่ฤดูของความเฉอะแฉะ แต่กลับกลายเป็นช่วงเวลาที่ความเงียบ ความชื้น และบรรยากาศอึมครึมแทรกซึมเข้าสู่จิตใจอย่างช้า ๆ

ในช่วงเวลาที่การเดินทางลำบาก การใช้ชีวิตนอกบ้านลดลง และปฏิสัมพันธ์ทางสังคมร่างกายถูกจำกัด ความรู้สึก “โดดเดี่ยว” จึงค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นโดยที่หลายคนไม่ทันสังเกต บางคนอาจรู้สึกว่าไม่อยากลุกจากเตียง ไม่อยากเริ่มต้นวัน หรือแม้กระทั่งเริ่มตั้งคำถามกับคุณค่าของตัวเอง การอยู่ในพื้นที่เดิม ๆ ซ้ำ ๆ พร้อมเสียงฝนตกพรำเป็นฉากหลัง ทำให้ใจเรายิ่งหมุนวนกับความคิดลบมากขึ้นทุกที

บทความนี้จึงอยากชวนคุณมาสำรวจ “ภาวะความโดดเดี่ยว” ที่มักแฝงมากับฤดูฝน และบางครั้งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะซึมเศร้าในระยะยาว พร้อมทั้งแนะนำวิธีดูแลสุขภาพจิตในวันที่ไม่มีแดดให้ใจได้พึ่งพิง เพราะแม้ฟ้าจะหม่น แต่ใจเราไม่จำเป็นต้องหม่นตามเสมอไป

ทำไมหน้าฝนจึงทำให้คนรู้สึกโดดเดี่ยวมากขึ้น

  1.  ลดการออกไปพบปะผู้คน

    ในช่วงหน้าฝน การเดินทางกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งยากกว่าปกติ ทั้งรถติด พื้นลื่น หรือแม้กระทั่งการไม่มีอารมณ์จะออกจากบ้าน หลายคนจึงเลือกอยู่บ้านมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว กิจกรรมที่เคยทำร่วมกับผู้อื่น เช่น ไปพบเพื่อน ไปคาเฟ่ ออกกำลังกาย หรือเข้าสำนักงาน ถูกลดลงหรือยกเลิกชั่วคราว แม้จะดูเหมือนเรื่องเล็กน้อย แต่เมื่อขาดปฏิสัมพันธ์ทางสังคมอย่างต่อเนื่อง ใจก็เริ่มรู้สึกเหงาและห่างไกลจากความรู้สึก “เป็นส่วนหนึ่ง” ของสังคม

  2. แสงแดดน้อย ส่งผลต่อสารเคมีในสมอง


    แสงแดดไม่ได้มีดีแค่ให้ความสว่าง แต่ยังมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพจิตด้วย โดยเฉพาะ “เซโรโทนิน” (Serotonin) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ ความสุข และความกระตือรือร้น ในหน้าฝนที่ท้องฟ้ามืดครึ้มและไม่มีแสงแดดเป็นเวลาหลายวัน ระดับเซโรโทนินในสมองอาจลดลง ส่งผลให้รู้สึกหดหู่ เฉื่อยชา หรือแม้แต่เศร้าได้ง่ายขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ

  3. การทำงานจากบ้านอย่างต่อเนื่อง


    แม้การทำงานจากบ้าน (Work From Home) จะดูเป็นทางเลือกที่สะดวกสบาย แต่เมื่อเกิดขึ้นเป็นเวลานานโดยไม่มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม หรือแม้แต่การเปลี่ยนบรรยากาศ ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตได้ โดยเฉพาะในหน้าฝนที่การออกไปนอกบ้านทำได้ยากขึ้น การใช้ชีวิตในพื้นที่เดิมซ้ำ ๆ ทุกวันอาจทำให้รู้สึกว่าตัวเอง “ติดอยู่” ในที่เดิม และนำไปสู่ความรู้สึกเหงาหรือความเบื่อหน่ายสะสม

  4. บรรยากาศที่ชวนให้จมกับอารมณ์


    เสียงฝนที่ตกกระทบพื้น กลิ่นของดินเปียก หรือท้องฟ้าที่หม่นมัว ล้วนสร้างบรรยากาศที่อาจชวนให้หวนคิดถึงเรื่องราวเก่า ๆ โดยเฉพาะความทรงจำที่เจ็บปวดหรือยังไม่ได้รับการเยียวยา บางคนอาจไม่รู้ตัวว่าเสียงฝนเพียงเบา ๆ ก็สามารถกระตุ้นให้ความรู้สึกเศร้า หรือความเหงาในใจกลับมาอีกครั้งได้ง่ายดาย จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายคนจะรู้สึกโดดเดี่ยวมากขึ้นในช่วงหน้าฝน แม้จะมีผู้คนอยู่รอบข้างก็ตาม
หน้าฝนทำให้เหงา? 5 วิธีดูแลใจให้ห่างไกลความโดดเดี่ยว"

สัญญาณว่าเราอาจกำลังเผชิญกับภาวะโดดเดี่ยว (Loneliness)

  1. รู้สึกเหนื่อยล้า แม้จะไม่ได้ออกแรง

    หนึ่งในสัญญาณที่พบได้บ่อยเมื่อเรากำลังเผชิญกับความรู้สึกโดดเดี่ยว คือความเหนื่อยล้าที่ไม่สัมพันธ์กับกิจกรรมทางกาย แม้จะนั่งอยู่เฉย ๆ หรือไม่ได้ทำงานที่ใช้แรงมาก แต่ร่างกายกลับรู้สึกหมดพลัง นั่นอาจเกิดจากภาวะทางอารมณ์ที่กดทับใจจนส่งผลมาถึงร่างกาย
  2. ขาดแรงจูงใจในการทำงาน หรือไม่อยากเริ่มต้นวัน

    เมื่อใจรู้สึกว่า “ไม่มีอะไรให้คาดหวัง” หรือ “ไม่มีใครรอเราอยู่” สิ่งเล็ก ๆ อย่างการเริ่มต้นวันใหม่ก็อาจกลายเป็นเรื่องยาก งานที่เคยทำได้อย่างมีพลังอาจเริ่มรู้สึกน่าเบื่อ ขาดเป้าหมาย และไร้แรงผลักดัน ซึ่งเป็นอาการที่มักเกิดร่วมกับภาวะโดดเดี่ยวและอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้หากไม่ได้รับการดูแล
  3. รู้สึกไม่มีใครเข้าใจ แม้อยู่ในกลุ่มคน

    ภาวะโดดเดี่ยวไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีใครอยู่ บางคนอยู่ท่ามกลางเพื่อนร่วมงาน ครอบครัว หรือสังคมออนไลน์ แต่กลับรู้สึกว่า “ไม่มีใครเข้าใจ” หรือ “ไม่สามารถเชื่อมต่อกับใครได้จริง ๆ” ความรู้สึกนี้ทำให้เราแยกตัวทางอารมณ์ แม้ร่างกายจะยังอยู่ในวงสังคมก็ตาม
  4. หลีกเลี่ยงการพูดคุยหรือนัดพบ

    แม้จะรู้สึกเหงา แต่คนที่กำลังอยู่ในภาวะโดดเดี่ยวมักมีแนวโน้มจะหลีกเลี่ยงการสื่อสาร ไม่อยากนัดพบ หรือปฏิเสธการเข้าสังคมโดยไม่ทราบเหตุผลแน่ชัด นี่อาจเป็นกลไกป้องกันตัวเองจากการถูกตัดสิน หรือความรู้สึกว่า “เราไม่เหมาะจะอยู่ตรงนั้น”
  5. วนคิดกับตัวเองซ้ำ ๆ ว่าตัวเราไม่มีค่า

    ความรู้สึกว่าตัวเอง “ไม่ดีพอ” หรือ “ไม่มีใครต้องการ” เป็นความคิดที่มักวนเวียนในใจของผู้ที่เผชิญกับความโดดเดี่ยวอย่างต่อเนื่อง ความคิดเชิงลบนี้อาจค่อย ๆ กัดกร่อนความมั่นใจในตัวเอง และทำให้รู้สึกว่าการมีอยู่ของเรานั้นไม่มีความหมาย จนไม่กล้าเปิดใจหรือออกไปขอความช่วยเหลือ
หน้าฝนทำให้เหงา? 5 วิธีดูแลใจให้ห่างไกลความโดดเดี่ยว"

5 วิธีรับมือกับความโดดเดี่ยวในช่วงหน้าฝน

  1. วางแผนเจอคนที่คุณรัก แม้จะเป็นแค่ผ่านหน้าจอ

    ในวันที่ฝนตกหนัก การเดินทางอาจไม่สะดวก แต่ความสัมพันธ์ไม่จำเป็นต้องเว้นระยะตามอากาศ ลองวางแผนนัดคุยกับคนที่คุณรัก ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ครอบครัว หรือคนรู้ใจผ่านวิดีโอคอล หรือโทรศัพท์สัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง การได้พูดคุยกับคนที่เข้าใจสามารถช่วยเยียวยาความรู้สึกโดดเดี่ยวได้มากกว่าที่คิด แค่ได้ยินเสียงหรือเห็นหน้า ก็ช่วยให้รู้สึกว่ามีคนอยู่ข้างเราเสมอ
  2. เปิดหน้าต่าง รับแสงธรรมชาติให้มากที่สุด

    แม้หน้าฝนจะมีแดดน้อย แต่เมื่อมีโอกาส ลองเปิดหน้าต่างให้แสงธรรมชาติเข้ามา หรือออกไปเดินเล่นเบา ๆ รับแสงแดดอ่อนในช่วงเช้า การได้รับแสงธรรมชาติจะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า ลดอาการซึมเศร้า และช่วยปรับสมดุลของสารเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งส่งผลต่ออารมณ์และความสุขของเราโดยตรง
  3. ตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ในแต่ละวัน

    บางครั้งความรู้สึกไร้จุดหมายคือสิ่งที่บั่นทอนใจในวันฝนพรำ ลองตั้งเป้าหมายง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ภายในบ้าน เช่น การจัดโต๊ะ เขียนบันทึก อ่านหนังสือที่อยากอ่านมานาน หรือออกกำลังกายเบา ๆ อย่างโยคะหรือการยืดเหยียดเล็กน้อย การได้ลงมือทำอะไรบางอย่างและทำสำเร็จจะช่วยเพิ่มความภูมิใจในตัวเอง และช่วยให้แต่ละวันผ่านไปอย่างมีความหมายมากขึ้น
  4. ใช้เทคโนโลยีอย่างมีคุณภาพ

    การอยู่คนเดียวในหน้าฝนอาจทำให้เราใช้เวลาไปกับการเลื่อนหน้าจอโซเชียลอย่างไม่มีจุดหมาย ลองเปลี่ยนมุมมองมาใช้เทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างความสุข เช่น เข้าเรียนออนไลน์ในหัวข้อที่สนใจ เข้าคลาสออกกำลังกายออนไลน์ หรือเล่นเกมกับเพื่อน เทคโนโลยีไม่ได้ทำให้เรารู้สึกห่างไกล หากเราใช้มันเพื่อเชื่อมต่อและสร้างประสบการณ์ดี ๆ ร่วมกับผู้อื่น
  5. หากรู้สึกแย่นานเกินไป ควรขอคำปรึกษาจากนักจิตวิทยา

    หากความรู้สึกโดดเดี่ยว เหงา หรือหมดพลังดำเนินต่อเนื่องจนกระทบชีวิตประจำวัน การพูดคุยกับนักจิตวิทยาหรือนักบำบัดมืออาชีพคือทางเลือกที่ควรพิจารณา อย่าคิดว่าเป็นเรื่องน่าอายหรือแปลก เพราะการขอความช่วยเหลือไม่ใช่สัญญาณของความอ่อนแอ แต่คือการดูแลใจตัวเองอย่างจริงจัง เหมือนการไปหาหมอเมื่อป่วยทางร่างกาย การดูแลสุขภาพจิตก็สำคัญไม่แพ้กัน

ภาวะโดดเดี่ยวในช่วงหน้าฝนไม่ใช่เรื่องแปลก โดยเฉพาะในยุคที่เราต้องอยู่คนเดียวมากขึ้น ทั้งจากการทำงานจากบ้าน การใช้ชีวิตในคอนโด หรือการเดินทางที่ลำบากในช่วงฝนตก สิ่งสำคัญไม่ใช่การหลีกเลี่ยงความรู้สึกเหล่านี้ แต่คือการ “ยอมรับ” ว่าเรารู้สึกอย่างไร และเรียนรู้ที่จะดูแลตัวเองทั้งกายและใจอย่างอ่อนโยน อย่าลืมว่า แม้ฟ้าจะครึ้ม แต่ใจเรายังมีแสงสว่างได้เสมอหากคุณรู้สึกว่าอยากมีคนรับฟัง Counselling Thailand มีนักจิตบำบัดมืออาชีพ พร้อมให้บริการทั้งออนไลน์และออนไซต์ เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและจัดการกับความรู้สึกโดดเดี่ยวได้อย่างปลอดภัยและเป็นธรรมชาติ

เริ่มต้นดูแลสุขภาพใจ

ปรึกษาฟรี 15 นาที

เราเข้าใจว่าการเริ่มต้นเข้ารับคำปรึกษาอาจทำให้คุณกังวล
ไม่ว่าจะเป็นความไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไร หรือสงสัยว่าการปรึกษาจะช่วยคุณได้จริงหรือไม่ เราพร้อมมอบประสบการณ์การปรึกษาที่ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและมั่นใจในทุกขั้นตอน

รับคำปรึกษาเลย