Imposter Syndrome คืออะไร ?
Imposter Syndrome หรือ อาการหลอกลวงตัวเอง คือภาวะที่เรารู้สึกว่า “ความสำเร็จที่ได้มา ไม่ใช่เพราะความสามารถของเราเอง” แม้จะมีผลงานดี มีคนยอมรับ แต่ในใจก็ยังคิดว่าโชคช่วย หรือกลัวถูกจับได้ว่า “ไม่เก่งจริง” ภาวะนี้พบได้บ่อยในคนทำงานรุ่นใหม่ โดยเฉพาะคนที่อยู่ในสายงานที่แข่งขันสูง เช่น เทคโนโลยี การตลาด สื่อสร้างสรรค์ หรือผู้ที่เพิ่งเริ่มงานใหม่
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม
ทำไมคนทำงานรุ่นใหม่ถึงเจอภาวะนี้บ่อย
- วัฒนธรรมเปรียบเทียบในที่ทำงาน
โซเชียลมีเดียทำให้เราเห็นความสำเร็จของเพื่อนร่วมรุ่นตลอดเวลา จึงอดเปรียบเทียบไม่ได้
- ความคาดหวังที่สูงเกินจริง
หลายองค์กรคาดหวังให้คนรุ่นใหม่ทำงานได้อย่างรวดเร็วและเก่งรอบด้าน → ทำให้รู้สึกกดดันว่าตัวเองยังไม่ดีพอ

สัญญาณที่บอกว่าคุณอาจกำลังเผชิญ Imposter Syndrome
- รู้สึกว่าความสำเร็จที่ได้มาไม่คู่ควร
- ไม่กล้ารับคำชมจากเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้า
- กลัวว่าคนอื่นจะรู้ความจริงว่า “เราไม่เก่ง”
- พยายามทำงานหนักเกินไปเพื่อพิสูจน์ตัวเอง
ผลกระทบต่อสุขภาพจิตและการทำงาน
- ความเครียดและความวิตกกังวลสะสม
- ขาดความมั่นใจในการตัดสินใจ
- ไม่กล้ารับโอกาสใหม่ ๆ เพราะกลัวทำไม่ได้
- เสี่ยงต่อการหมดไฟ (Burnout)
วิธีรับมือและจัดการ Imposter Syndrome
- ยอมรับความสำเร็จของตัวเอง
ฝึกบันทึกสิ่งที่ทำสำเร็จในแต่ละวัน เพื่อย้ำเตือนว่าคุณมีคุณค่า
- ขอ feedback อย่างสร้างสรรค์
เปิดใจรับคำแนะนำเชิงบวก และแยกความต่างระหว่าง “คำติ” กับ “ตัวตน”
- หาที่ปรึกษาหรือเพื่อนร่วมทาง
การพูดคุยกับ mentor หรือเข้าพบนักจิตบำบัด สามารถช่วยให้มองเห็นคุณค่าของตัวเองชัดเจนขึ้น

Imposter Syndrome เป็นปัญหาที่เงียบแต่ส่งผลรุนแรงต่อสุขภาพจิต หลายคนอาจรู้สึกว่า ‘ไม่เก่งจริง’ หรือไม่คู่ควรกับความสำเร็จที่ได้รับ การยอมรับความสามารถของตัวเองและปรับมุมมอง คือก้าวสำคัญที่จะเปลี่ยนความไม่มั่นใจให้กลายเป็นแรงผลักดันในการทำงาน
หากคุณกำลังเผชิญกับความรู้สึกเหล่านี้ การพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยให้คุณมองเห็นคุณค่าในตัวเองได้ชัดเจนขึ้น Counselling Thailand มีนักจิตบำบัดที่พร้อมให้บริการ เพื่อช่วยคุณก้าวผ่านความรู้สึกไม่มั่นใจ และกลับมาทำงานได้อย่างมั่นคงในใจมากขึ้น”