หลายคนอาจเคยเจอสถานการณ์ที่ตัวเอง เริ่มต้นทำสิ่งใหม่ ๆ ได้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นการเรียนภาษาใหม่ การออกกำลังกาย การเริ่มต้นธุรกิจเล็ก ๆ หรือแม้แต่การทำโปรเจกต์งาน แต่พอเวลาผ่านไป กลับรู้สึกหมดไฟ เบื่อ หรือเลิกทำกลางคัน กลายเป็นวัฏจักรที่วนซ้ำจนทำให้รู้สึก เสียความมั่นใจ และ ตำหนิตัวเองว่าไม่เก่งจริง
ความจริงแล้ว พฤติกรรม “เริ่มเก่ง แต่ไปไม่สุด” ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่มีความสามารถ แต่เบื้องหลังมักมีเหตุผลที่ซ่อนอยู่ ทั้งจากมุมมองทางจิตวิทยา พฤติกรรม และสิ่งแวดล้อมรอบตัว หากเราเข้าใจรากของปัญหา ก็สามารถปรับพฤติกรรมและเปลี่ยนเป็นคนที่ “ทำได้จนสำเร็จ” ได้เช่นกัน
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม
สมองหลงรักความตื่นเต้นของการเริ่มต้น
เมื่อเราเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ สมองจะหลั่ง โดพามีน (Dopamine) ซึ่งเป็นสารเคมีแห่งความสุข ทำให้รู้สึกตื่นเต้นและมีแรงบันดาลใจสูง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความรู้สึกตื่นเต้นนี้ลดลง กลายเป็นความรู้สึก จำเจและน่าเบื่อ สมองจึงเริ่มโหยหาความท้าทายใหม่ ทำให้หลายคนเลือกที่จะเลิกทำกลางคันและไปเริ่มสิ่งใหม่แทน
วิธีรับมือ: พยายามแบ่งเป้าหมายใหญ่ออกเป็น เป้าหมายเล็ก ๆ ที่ทำสำเร็จได้เรื่อย ๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจต่อเนื่อง เช่น หากตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษ แทนที่จะมุ่งไปที่ “พูดคล่องใน 6 เดือน” ให้ตั้งเป้าเล็ก ๆ เช่น “เรียนรู้คำศัพท์ใหม่วันละ 10 คำ”
ความคาดหวังสูงเกินไป
หลายครั้งเราเริ่มต้นด้วยความหวังว่าจะต้องทำได้ “สมบูรณ์แบบ” จนเมื่อผลลัพธ์ไม่เป็นอย่างที่คิด ความรู้สึกผิดหวังจึงเข้ามาแทนที่ ทำให้หมดกำลังใจและหยุดทำไปกลางทาง
วิธีรับมือ: ลดความคาดหวังที่สูงเกินไป และให้ความสำคัญกับ การก้าวไปทีละขั้น มากกว่าผลลัพธ์สุดท้าย จำไว้ว่า ความสำเร็จไม่ได้วัดจากความเร็ว แต่จากความต่อเนื่อง

กลัวความล้มเหลวและคำวิจารณ์
อีกเหตุผลหนึ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังนิสัย “เริ่มเก่ง แต่ไปไม่สุด” คือ ความกลัว บางคนกลัวล้มเหลว กลัวผิดพลาด หรือกลัวคำวิจารณ์จากคนรอบข้าง จึงเลือกหยุดก่อนที่จะถึงจุดที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงเหล่านั้น
วิธีรับมือ: เปลี่ยนมุมมองต่อความล้มเหลว มองว่ามันคือ บทเรียนและโอกาสในการพัฒนา แทนที่จะเป็นจุดจบ
การจัดการเวลาและพลังงานที่ไม่เหมาะสม
หลายครั้งปัญหาไม่ได้อยู่ที่ความสามารถ แต่เกิดจากการจัดการเวลาและพลังงานที่ไม่ดีพอ เช่น ทำงานหลายอย่างพร้อมกันจนเหนื่อยล้า ขาดการวางแผน ทำให้ไปไม่ถึงเป้าหมาย
วิธีรับมือ: ใช้หลัก Prioritization หรือการจัดลำดับความสำคัญ เช่น ทำสิ่งสำคัญที่สุดก่อน และกำหนดเวลาให้กับแต่ละงานอย่างชัดเจน
ขาดแรงสนับสนุนจากสิ่งแวดล้อมรอบตัว
สภาพแวดล้อมมีผลอย่างมากต่อพฤติกรรม หากคนรอบตัวไม่สนับสนุน หรือสังคมรอบข้างไม่ได้ส่งเสริมเป้าหมายที่คุณตั้งไว้ ก็อาจทำให้หมดแรงจูงใจได้ง่าย
วิธีรับมือ: สร้าง สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำต่อเนื่อง เช่น เข้าร่วมกลุ่มที่มีเป้าหมายเดียวกัน หรือหาเพื่อนที่ช่วยเป็นกำลังใจและคอยตรวจสอบความก้าวหน้า
ปัญหาที่มาจากจิตใจลึก ๆ
บางครั้งนิสัย “เริ่มเก่ง แต่ไปไม่สุด” อาจเป็นสัญญาณของปัญหาทางจิตใจที่ซ่อนอยู่ เช่น
- ภาวะวิตกกังวล ที่ทำให้กลัวความล้มเหลว
- ภาวะซึมเศร้า ที่ทำให้หมดแรงจูงใจในการทำสิ่งต่าง ๆ
- Imposter Syndrome ความรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งจริง แม้จะมีศักยภาพ
ปัญหาเหล่านี้ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการ “พยายามเองเพียงลำพัง” แต่ควรได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ

นักจิตบำบัดช่วยได้อย่างไร
การทำงานร่วมกับ นักจิตบำบัด สามารถช่วยเปิดมุมมองใหม่ ๆ และทำให้คุณเข้าใจต้นตอของนิสัย “เริ่มเก่ง แต่ไปไม่สุด” ได้ลึกขึ้น เช่น
- ทำให้คุณมองเห็นรูปแบบความคิดที่ซ้ำ ๆ และไม่เป็นประโยชน์
- ช่วยพัฒนาเครื่องมือทางจิตใจในการจัดการกับความเครียด ความกลัว และความกดดัน
- สนับสนุนการสร้าง วินัยและแรงจูงใจภายใน อย่างต่อเนื่อง
- ลดความรู้สึกผิดหรือการตำหนิตัวเองที่มากเกินไป
หากคุณรู้สึกว่าตัวเองติดอยู่ในวงจร “เริ่มเก่ง แต่ไปไม่สุด” และอยากเปลี่ยนแปลง Counselling Thailand พร้อมช่วยเหลือคุณ ที่นี่มีทีมนักจิตบำบัดมืออาชีพที่สามารถสื่อสารได้หลายภาษา (อังกฤษ ไทย จีน เกาหลี และอื่น ๆ) พร้อมให้บริการออนไลน์ในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการค้นหาต้นเหตุของนิสัยที่ขัดขวางความสำเร็จ อยากเรียนรู้วิธีจัดการกับความคิดด้านลบและความกลัว ต้องการสร้างแรงจูงใจและวินัยใหม่ในการใช้ชีวิต หรือกำลังมองหาพื้นที่ปลอดภัยในการพูดคุยและค้นหาคำตอบในตัวเอง นิสัย “เริ่มเก่ง แต่ไปไม่สุด” ไม่ได้หมายความว่าคุณขาดความสามารถ แต่เกิดจากเหตุผลที่ซ่อนอยู่ทั้งจากสมอง ความคิด ความคาดหวัง และสิ่งแวดล้อมรอบตัว การเข้าใจต้นเหตุและเรียนรู้วิธีจัดการจะช่วยให้คุณก้าวข้ามพฤติกรรมนี้ได้ และหากคุณรู้สึกว่าปัญหานี้ส่งผลต่อชีวิตและความมั่นใจของคุณ การขอความช่วยเหลือจากนักจิตบำบัด Counselling Thailand อาจเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้คุณเปลี่ยนจากคนที่ “เริ่มเก่งแต่หยุดกลางทาง” ไปสู่คนที่ “ทำสำเร็จจนถึงเป้าหมาย” ได้อย่างแท้จริง