รับฟังแต่ไม่เข้าใจ เอาตัวรอดในที่ทำงานยังไง
การสื่อสารที่ดีเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพในที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทอดข้อมูล การทำงานร่วมกัน หรือการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น การสื่อสารที่เข้าใจตรงกันทำให้ทีมสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นและลดความขัดแย้งระหว่างบุคคลในองค์กร แต่ปัญหาที่หลายคนมักพบคือ แม้ว่าผู้พูดจะพยายามสื่อสารอย่างชัดเจน แต่บางครั้งผู้ฟังอาจไม่ได้เข้าใจหรือจับใจความที่ต้องการจะสื่อสารได้เต็มที่ บางครั้งการฟังดูเหมือนจะเข้าใจแต่กลับเกิดความเข้าใจผิดในรายละเอียด ทำให้เกิดการตีความผิดหรือเกิดข้อผิดพลาดในการทำงาน การไม่เข้าใจในสิ่งที่พูดไม่เพียงแต่ทำให้เสียเวลาในการทำงาน แต่ยังทำให้เกิดความเครียดและความรู้สึกไม่พอใจทั้งในตัวผู้พูดและผู้ฟัง นอกจากนี้ยังสามารถส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ภายในทีม การที่เราจะจัดการกับปัญหานี้ได้ เราจำเป็นต้องเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้การสื่อสารล้มเหลว และหาวิธีการแก้ไขที่เหมาะสมเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและความร่วมมือที่ดีในที่ทำงานมากยิ่งขึ้น
Table of Contents
เมื่อเราพูด มีคนรับฟัง แต่…ไม่เข้าใจ
1. รู้สึกหงุดหงิดและเครียด
เมื่อเราพยายามอธิบายสิ่งต่าง ๆ แต่ไม่มีใครเข้าใจ อาจทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดหรือกดดันในสถานการณ์นั้น ๆ โดยเฉพาะหากเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องการความเข้าใจโดยด่วน ความเครียดนี้อาจสะสมและส่งผลต่ออารมณ์และสุขภาพจิตในระยะยาว
2. สูญเสียความมั่นใจในตัวเอง
การพูดแล้วไม่มีคนเข้าใจอาจทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองไม่มีทักษะในการสื่อสาร หรือขาดความสามารถในการถ่ายทอดสิ่งที่ต้องการ การเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้บ่อยครั้ง อาจทำให้เรารู้สึกไม่มั่นใจในการพูดหรือแสดงความคิดเห็นในอนาคต
3. เสียเวลา
เมื่อไม่มีใครเข้าใจในสิ่งที่เราพูด เราอาจต้องใช้เวลามากขึ้นในการอธิบายซ้ำ หรือต้องหาวิธีการใหม่ ๆ เพื่อถ่ายทอดความคิด สิ่งนี้อาจทำให้เราเสียเวลาในงานหรือกิจกรรมอื่นที่สำคัญ
4. รู้สึกโดดเดี่ยวและถูกมองข้าม
การที่เราพูดแล้วไม่มีคนเข้าใจอาจทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ได้รับการยอมรับหรือไม่ได้รับความสนใจจากคนรอบข้าง ความรู้สึกนี้อาจนำไปสู่ความรู้สึกโดดเดี่ยว หรือรู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่าในกลุ่มหรือทีม
5. ลดประสิทธิภาพการทำงานหรือการตัดสินใจ
เมื่อคนอื่นไม่เข้าใจในสิ่งที่เราสื่อสาร อาจส่งผลให้การทำงานหรือการประสานงานติดขัด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสำเร็จของงานโดยรวม นอกจากนี้ อาจทำให้เรารู้สึกว่าการตัดสินใจของเรานั้นไม่สำคัญหรือน่าเชื่อถือ
6. รู้สึกหมดแรงจูงใจ
การที่เราไม่ได้รับการตอบสนองที่ดีจากสิ่งที่พยายามสื่อสาร อาจทำให้เรารู้สึกหมดกำลังใจและขาดแรงจูงใจในการสื่อสารในอนาคต หรืออาจถึงขั้นหลีกเลี่ยงการมีส่วนร่วมในบทสนทนาและการทำงานร่วมกับผู้อื่น
ผลกระทบของการที่พูดแต่ไม่มีคนเข้าใจในที่ทำงาน
1. การสื่อสารล้มเหลว
หากสิ่งที่คุณพูดถูกตีความผิดไป หรือไม่ได้รับการเข้าใจในแบบที่คุณตั้งใจ การสื่อสารนั้นอาจล้มเหลวและนำไปสู่ผลกระทบที่สำคัญ เช่น การทำงานผิดพลาด การเข้าใจผิดในบทบาทหน้าที่ หรือการดำเนินงานที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ การสื่อสารที่ไม่ชัดเจนยังอาจสร้างปัญหาภายในทีมหรือโครงการที่ต้องการความร่วมมือจากหลายฝ่าย ซึ่งอาจส่งผลต่อผลลัพธ์ของงาน
2. การเกิดความขัดแย้ง
เมื่อผู้ฟังไม่เข้าใจเจตนาที่แท้จริงของคุณ อาจนำไปสู่การตอบโต้หรือการกระทำที่ผิดไปจากที่คาดหวัง ซึ่งสามารถทำให้เกิดความขัดแย้งในความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในครอบครัว เพื่อน หรือที่ทำงาน การตอบสนองด้วยความเข้าใจผิดสามารถกระตุ้นความไม่พอใจและความไม่ไว้วางใจระหว่างกัน และถ้าปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไข อาจทำให้ความสัมพันธ์แย่มากขึ้น
3. สูญเสียโอกาสสำคัญ
การสื่อสารที่ไม่เข้าใจอาจทำให้คุณพลาดโอกาสสำคัญในชีวิต เช่น โอกาสในการนำเสนอแนวคิดในที่ทำงาน การสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ หรือการแสดงความรู้สึกและความต้องการต่อคนสำคัญในชีวิต การที่คนอื่นไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณพูด อาจทำให้พวกเขาไม่สนับสนุนหรือไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่คุณต้องการจะเสนอ ซึ่งส่งผลให้คุณเสียโอกาสที่จะก้าวหน้าหรือพัฒนาตัวเองทั้งในด้านการงานและชีวิตส่วนตัว
วิธีรับมือเบื้องต้น หากเราเป็นผู้พูดแต่คนรับฟังไม่เข้าใจ
- ปรับวิธีการสื่อสาร
ลองเปลี่ยนวิธีการพูด เช่น ใช้คำพูดที่เรียบง่ายขึ้น หลีกเลี่ยงการใช้ศัพท์เฉพาะหรือคำที่มีความซับซ้อน และใช้ภาษาที่เหมาะสมกับผู้ฟัง - ถามผู้ฟังเพื่อประเมินความเข้าใจ
หลังจากพูดเสร็จ ลองถามผู้ฟังว่าเข้าใจในสิ่งที่คุณสื่อสารหรือไม่ เช่น “สิ่งที่ผมพูดชัดเจนไหม?” หรือ “คุณมีคำถามเพิ่มเติมไหม?” - ใช้ตัวอย่างหรือการเปรียบเทียบ
การใช้ตัวอย่างหรือเปรียบเทียบช่วยให้ผู้ฟังเข้าใจภาพรวมได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องที่มีความซับซ้อน - แบ่งเนื้อหาเป็นส่วนย่อย ๆ
หากข้อมูลที่สื่อสารมีปริมาณมาก ลองแบ่งเนื้อหาออกเป็นส่วนย่อย ๆ เพื่อให้ผู้ฟังสามารถติดตามและทำความเข้าใจทีละขั้นตอนได้ - ใช้สื่อช่วยในการอธิบาย
การใช้ภาพ วิดีโอ หรือแผนภูมิช่วยสนับสนุนคำพูด สามารถช่วยทำให้ข้อมูลชัดเจนและเข้าใจง่ายขึ้น - ขอให้ผู้ฟัง Feedback
ขอให้ผู้ฟังพูดในสิ่งที่พวกเขาเข้าใจกลับมา เพื่อที่คุณจะได้ปรับปรุงการอธิบายในส่วนที่ยังไม่ชัดเจน - ปรับน้ำเสียงและท่าทางการพูด
น้ำเสียงและภาษากายที่เหมาะสมสามารถช่วยเน้นประเด็นสำคัญและเพิ่มความน่าสนใจในการสื่อสารได้ - ตรวจสอบความพร้อมของผู้ฟัง
ก่อนเริ่มพูด ลองถามผู้ฟังว่าพร้อมรับฟังหรือยัง หากพวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สะดวก เช่น กำลังยุ่งหรือมีความเครียด อาจเลื่อนการพูดคุยไปยังเวลาที่เหมาะสมกว่า - อธิบายด้วยวิธีที่หลากหลาย
หากการพูดครั้งแรกไม่สำเร็จ ลองเปลี่ยนรูปแบบการอธิบาย เช่น ใช้การเล่าที่กระชับขึ้น หรืออธิบายในลักษณะของคำถาม – คำตอบ - มีความอดทนและใส่ใจ
หากผู้ฟังยังไม่เข้าใจ อย่าแสดงอาการไม่พอใจหรือเร่งรัด ให้แสดงความตั้งใจที่จะช่วยพวกเขาเข้าใจ โดยใช้คำพูดที่ให้กำลังใจ
หากคุณได้ลองปรับปรุงวิธีการสื่อสารหลายวิธีแล้ว แต่ยังคงเจอกับปัญหาว่าคนฟังไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณพูด การปรึกษานักจิตบำบัดหรือผู้เชี่ยวชาญ อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม นักจิตบำบัดสามารถช่วยคุณวิเคราะห์สถานการณ์ได้และให้คำแนะนำที่ตรงกับความต้องการเฉพาะของคุณ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสารของคุณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับรูปแบบการพูด การเลือกคำที่เหมาะสม หรือการจัดลำดับความสำคัญของข้อมูลที่ต้องการสื่อ
ประโยชน์ของการปรึกษานักจิตบำบัด
- การช่วยให้คุณเข้าใจรูปแบบการสื่อสารของตัวเองว่าอาจมีส่วนที่ขาดตกบกพร่องตรงไหน
- แนะนำแนวทางในการพูดให้ชัดเจนและตรงประเด็นมากขึ้น
- นักจิตบำบัดยังสามารถช่วยคุณเรียนรู้วิธีจัดการกับความรู้สึกท้อแท้หรือความเครียดที่เกิดจากการสื่อสารไม่สำเร็จ โดยฝึกทักษะการฟังและการตอบสนองที่ช่วยสร้างความเข้าใจที่ดีขึ้นระหว่างคุณและผู้อื่น
การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญไม่ใช่เพียงแค่ช่วยให้คุณแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ แต่ยังช่วยให้คุณพัฒนาทักษะการสื่อสารในระยะยาว ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งชีวิตส่วนตัวและการทำงานของคุณ ดังนั้น หากคุณรู้สึกว่าปัญหานี้ส่งผลต่อความสัมพันธ์หรือความมั่นใจของคุณ การขอคำปรึกษาจากนักจิตบำบัดจึงเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้คุณเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน