การได้รับข่าวสารเชิงลบอย่างต่อเนื่องทุกวันอาจส่งผลต่อสุขภาพจิตมากกว่าที่เราคิด ความกังวลที่เกิดจากการติดตามข่าวสารสามารถสะสมในใจโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งเริ่มส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม
สัญญาณเตือนที่ควรสังเกต
- รู้สึกเครียดหลังจากอ่านข่าวหรือดูโซเชียลมีเดีย
- นอนไม่หลับเพราะคิดมากเรื่องสถานการณ์ต่าง ๆ
- รู้สึกหดหู่หรือสิ้นหวังกับอนาคต
- หลีกเลี่ยงการวางแผนอนาคตเพราะความไม่แน่นอน

6 วิธีจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ
จำกัดเวลาการเสพข่าวสาร
การตั้งขอบเขตเวลาในการติดตามข่าวสารเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ
- กำหนดเวลาเฉพาะในการอ่านข่าว เช่น 15-30 นาทีต่อวัน
- หลีกเลี่ยงการเช็คข่าวก่อนนอนหรือตื่นนอน
- ปิดการแจ้งเตือนข่าวสารจากแอปพลิเคชันต่าง ๆ
- เลือกแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้และนำเสนอข้อมูลอย่างสมดุล
ฝึกการหายใจลึกเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด
เทคนิคการหายใจเป็นวิธีที่พิสูจน์แล้วว่าช่วยลดความเครียดได้
- หายใจเข้าทางจมูก 4 จังหวะ
- กลั้นหายใจ 4 จังหวะ
- หายใจออกทางปาก 6 จังหวะ
- ทำซ้ำ 5-10 รอบเมื่อรู้สึกกังวล
ให้เวลากับกิจกรรมที่ทำให้ใจสงบ
การทำกิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจผ่อนคลายเป็นสิ่งจำเป็น
- การทำสมาธิหรือไมนด์ฟูลเนส
- การออกกำลังกายเบา ๆ เช่น เดิน โยคะ
- การฟังเพลงหรืออ่านหนังสือ
- การทำงานฝีมือหรือศิลปะ
- การใช้เวลากับธรรมชาติ
สร้างแนวทางป้องกันจิตใจ
การสร้างกลไกป้องกันความเครียดล่วงหน้า
- ปรับตั้งค่าอัลกอริธึมโซเชียลมีเดียให้แสดงเนื้อหาเชิงบวกมากขึ้น
- หาข้อมูลข่าวสารจากแหล่งที่มีมุมมองสร้างสรรค์
- ร่วมกิจกรรมชุมชนหรือการกุศลเพื่อสร้างความหมายในชีวิต
พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์
- แยกแยะระหว่างข้อเท็จจริงกับความคิดเห็น
- ตรวจสอบข้อมูลจากหลายแหล่ง
- โฟกัสไปที่สิ่งที่ควบคุมได้ในชีวิตตัวเอง
สร้างเครือข่ายสนับสนุน
การมีคนรอบข้างที่เข้าใจและให้กำลังใจ
- แบ่งปันความรู้สึกกับคนใกล้ชิด
- เข้าร่วมกลุ่มหรือชุมชนที่มีค่านิยมคล้ายกัน
- หลีกเลี่ยงการอยู่คนเดียวกับความคิดเชิงลบเป็นเวลานาน

เมื่อไหร่ควรขอความช่วยเหลือ
หากเริ่มส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างจริงจัง การปรึกษานักจิตบำบัดหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตอาจเป็นทางเลือกที่ดี สัญญาณที่ควรขอความช่วยเหลือ ได้แก่
- รบกวนการนอนหลับอย่างต่อเนื่อง
- ไม่สามารถทำกิจกรรมประจำวันได้ปกติ
- มีอาการทางกายจากความเครียด เช่น ปวดหัว ปวดท้อง
- รู้สึกสิ้นหวังหรือหมดกำลังใจอย่างรุนแรง
การรับรู้เหตุการณ์รอบตัวเป็นสิ่งสำคัญ แต่การดูแลสุขภาพจิตของตัวเองก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน การหาจุดสมดุลระหว่างการรับทราบข้อมูลและการปกป้องจิตใจจะช่วยให้เราสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพมากขึ้น จำไว้ว่า การดูแลสุขภาพจิตไม่ใช่เรื่องที่ต้องทำคนเดียว หากรู้สึกว่าความกังวลเริ่มครอบงำชีวิต อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ
สำหรับผู้ที่ต้องการคำปรึกษาจากนักจิตบำบัดมืออาชีพ Counselling Thailand เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ที่ให้บริการคำปรึกษาทางจิตวิทยาและการบำบัดด้วยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์
การได้รับมุมมองใหม่จากนักจิตบำบัดอาจช่วยให้คุณพบทางออกที่เหมาะสมกับตัวเองและสร้างความแข็งแกร่งทางใจได้ การบำบัดจะช่วยให้คุณเรียนรู้เทคนิคการจัดการความเครียดที่เฉพาะเจาะจงและยั่งยืน