ENG
TH
Revenge Quitting หรือการลาออกด้วยความแค้น กลายเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในปัจจุบัน โดยเฉพาะในยุคที่พนักงานมีทางเลือกมากขึ้นในตลาดแรงงาน การตัดสินใจลาออกแบบนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเปลี่ยนงานธรรมดา แต่มักสะท้อนถึงความรู้สึกที่ถูกสะสมมานานจากความไม่พอใจในองค์กร เช่น การไม่ได้รับความยุติธรรม การถูกละเลย หรือการรู้สึกว่าตนเองไม่ได้รับการยอมรับในผลงาน ความรู้สึกเหล่านี้สะสมจนกลายเป็นแรงผลักดันให้พนักงานตัดสินใจลาออกอย่างฉับพลัน พร้อมแสดงความไม่พอใจต่อองค์กรอย่างชัดเจน ซึ่งอาจสร้างความเสียหายทั้งต่อภาพลักษณ์และความมั่นคงขององค์กรเอง
คำถามที่สำคัญคือ สาเหตุที่แท้จริงของปรากฏการณ์นี้คืออะไร และองค์กรจะสามารถป้องกันหรือรับมือได้อย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต ?
Revenge Quitting หมายถึง การลาออกของพนักงานที่มาจากความรู้สึกแค้นหรือไม่พอใจต่อการปฏิบัติที่ไม่ยุติธรรมในที่ทำงาน เช่น การไม่ได้รับการยอมรับ การถูกปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสม หรือสภาพแวดล้อมการทำงานที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด โดยการลาออกในลักษณะนี้มักมาพร้อมกับการแสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจน เช่น การประกาศผ่านโซเชียลมีเดีย หรือการเปิดเผยเหตุผลที่ลาออกให้เพื่อนร่วมงานรับรู้
องค์กรที่มีวัฒนธรรมการทำงานที่ไม่สนับสนุน หรือเต็มไปด้วยการแข่งขันที่ไม่มีความยุติธรรม อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พนักงานรู้สึกหมดหวัง
พนักงานหลายคนที่ทำงานเกินความคาดหวังแต่ไม่ได้รับคำชมเชยหรือผลตอบแทนที่เหมาะสม มักรู้สึกถูกมองข้าม
ความคับข้องใจเล็กน้อยที่สะสมมานานอาจกลายเป็นจุดแตกหักที่นำไปสู่การลาออกด้วยความแค้น
การสูญเสียพนักงานที่มีความสามารถเป็นปัญหาสำคัญที่องค์กรต้องเผชิญ เนื่องจากพนักงานที่เลือกลาออกด้วยเหตุผลนี้มักเป็นบุคคลที่มีศักยภาพสูง แต่ไม่ได้รับการสนับสนุนหรือดูแลอย่างเหมาะสม ส่งผลให้เกิดความไม่พอใจและตัดสินใจลาออก นอกจากนี้ การลาออกของพนักงานยังส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของทีมที่ยังคงทำงานอยู่ การเห็นเพื่อนร่วมงานลาออกด้วยความไม่พอใจอาจทำให้ทีมรู้สึกไม่มั่นคงหรือขาดแรงจูงใจ สุดท้าย การลาออกที่กลายเป็นการพูดถึงในแง่ลบอาจทำลายภาพลักษณ์ขององค์กร ทำให้ยากต่อการดึงดูดพนักงานที่มีความสามารถมาร่วมงานในอนาคต
การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีเป็นสิ่งสำคัญในการลดโอกาสเกิดความขัดแย้งในองค์กร โดยการส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานที่เป็นมิตรและเปิดกว้างจะช่วยสร้างความไว้วางใจและความร่วมมือระหว่างพนักงาน นอกจากนี้ การสื่อสารและการเปิดช่องทางให้พนักงานสามารถแสดงความคิดเห็นหรือเล่าถึงปัญหาของตนได้โดยไม่รู้สึกกลัว จะช่วยให้สามารถเข้าใจและแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ การให้คุณค่าและการยอมรับผลงานของพนักงานผ่านคำชมเชยหรือรางวัลที่เหมาะสมยังช่วยสร้างแรงจูงใจ ลดความรู้สึกไม่พอใจ และทำให้พนักงานรู้สึกมีส่วนร่วมและเห็นคุณค่าในงานที่ทำ
Revenge Quitting เป็นปรากฏการณ์ที่สะท้อนถึงความไม่พอใจในที่ทำงานอย่างลึกซึ้ง การป้องกันและแก้ไขปัญหานี้จำเป็นต้องอาศัยความใส่ใจจากทั้งฝ่ายบริหารและพนักงาน การสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ดีและการรับฟังความคิดเห็นอย่างจริงใจจะช่วยลดโอกาสเกิดปัญหา และทำให้องค์กรก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง หากบริษัทไหนกำลังเผชิญปัญหานี้อยู่ หรือต้องการปรับการจัดการองค์กร สามารถติดต่อ Counselling thailand เรามีนักจิตบำบัดด้านนี้ให้บริการ เพื่อเป็นตัวเลือกในการช่วยพัฒนาพนักงานในองค์กรได้ ที่นี่