อาการ Boreout, Burnout, Brownout และวิธีรับมือ
การทำงานในยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบและความกดดัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสร้างผลงานให้ทันเวลา หรือการจัดการกับความคาดหวังที่สูง ทำให้หลายคนต้องเผชิญกับความเหนื่อยล้าทั้งทางร่างกายและจิตใจ แต่สาเหตุของการหมดแรงใจในการทำงานนั้น ไม่ได้เกิดจากการทำงานหนักเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีหลายภาวะที่เกี่ยวข้องกับลักษณะการทำงานที่แตกต่างกัน เช่น Boreout หรือการเบื่องานจากการทำงานที่ขาดความท้าทาย, Burnout หรือการหมดไฟจากการทำงานหนักเกินไป, และ Brownout ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดจากการหมดใจหรือหมดพลังใจในการทำงาน เนื่องจากความผิดหวังหรือปัญหาต่างๆ ที่พบในที่ทำงาน
การทำความเข้าใจภาวะเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยให้เราเรียนรู้วิธีการรับมือและป้องกันแล้ว ยังทำให้เราเข้าใจตัวเองได้มากขึ้น เมื่อเราเห็นลักษณะเฉพาะของแต่ละภาวะและผลกระทบที่มีต่อชีวิตการทำงาน จะช่วยลดความเครียดและความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเหล่านี้ การดูแลสุขภาพจิตใจให้ดีจึงเป็นการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ ไม่ต่างจากการใส่ใจสุขภาพกาย การเข้าใจตัวเองจะช่วยให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีและพร้อมรับมือกับความท้าทายในชีวิตการทำงานได้อย่างมั่นใจ
Table of Contents
Boreout, Burnout, และ Brownout คืออะไร
1. ภาวะเบื่องาน (Boreout)
เป็นสภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อรู้สึกขาดความท้าทายและแรงจูงใจในการทำงาน ซึ่งมักเกิดจากการได้รับมอบหมายงานที่น่าเบื่อ งานที่ซ้ำซากจำเจ หรือการที่บทบาทงานไม่มีความชัดเจนและไม่สามารถใช้ทักษะความสามารถได้เต็มที่ เมื่อรู้สึกว่าไม่มีส่วนร่วมในงานหรือไม่มีโอกาสพัฒนา สิ่งนี้อาจนำไปสู่การรู้สึกเบื่อหน่าย หมดไฟ และขาดความสุขในการทำงาน อาการของภาวะเบื่องานที่พบบ่อยได้แก่ ความเหนื่อยล้าทางอารมณ์ การเสียสมาธิ ความรู้สึกว่าเวลาทำงานผ่านไปช้า และการพยายามทำให้ตัวเองดูยุ่งเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกว่างเปล่า
2. ภาวะหมดไฟ (Burnout)
เป็นสภาวะที่เกิดจากความเครียดและความกดดันในที่ทำงานที่สะสมมาอย่างต่อเนื่อง สาเหตุหลักของภาวะนี้มักมาจากการทำงานหนักเกินไป การรับผิดชอบงานที่มากเกินความสามารถ ความคาดหวังที่สูงเกินไป หรือการขาดการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมงานเมื่อต้องเผชิญกับความเครียดอย่างต่อเนื่อง หรือเหนื่อยล้า หมดพลังงาน หมดความกระตือรือร้น และขาดแรงจูงใจในการทำงาน อาการทั่วไปของภาวะหมดไฟได้แก่ ความเหนื่อยล้าเรื้อรัง รู้สึกไม่พอใจในงานที่ทำ ขาดประสิทธิภาพในการทำงาน และมีแนวโน้มที่จะห่างเหินจากเพื่อนร่วมงาน
3. ภาวะหมดใจ (Brownout)
เป็นสภาวะที่รู้สึกหมดความกระตือรือร้นและขาดความผูกพันกับงาน แม้ยังคงทำงานได้ตามหน้าที่แต่ไม่มีความสุขหรือความพอใจในสิ่งที่ทำ สาเหตุของภาวะนี้มักเกิดจากการทำงานที่ไม่สอดคล้องกับคุณค่าและเป้าหมายส่วนตัว การขาดความรู้สึกว่าตนเองมีส่วนร่วมในองค์กร หรือการขาดการยอมรับและสนับสนุนจากเพื่อนร่วมงาน อาการของภาวะหมดใจจะเริ่มจากความรู้สึกเฉื่อยชา ขาดพลังในการทำงาน ลดความกระตือรือร้น และมีแนวโน้มที่จะรู้สึกห่างเหินจากเพื่อนร่วมงาน นอกจากนี้ยังอาจส่งผลให้มีการมองหางานใหม่อยู่บ่อยครั้ง
วิธีป้องกันและการจัดการ
ภาวะเบื่องาน (Boreout) เริ่มจากการหาความท้าทายใหม่ๆ ในการทำงาน เช่น การขอรับผิดชอบงานที่หลากหลายหรือเพิ่มเติมจากงานเดิม เพื่อให้มีโอกาสใช้ทักษะและศักยภาพอย่างเต็มที่ การพูดคุยกับหัวหน้างานเพื่อปรับบทบาทหรือเป้าหมายงานให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดจะช่วยให้รู้สึกมีคุณค่าและมีส่วนร่วมมากขึ้น นอกจากนี้ การหากิจกรรมเสริมที่สร้างแรงบันดาลใจ เช่น การเข้าร่วมการอบรม ทักษะใหม่ๆ หรือการทำงานร่วมกับทีมในโปรเจกต์พิเศษ ยังสามารถช่วยสร้างความรู้สึกที่มีความหมายต่อการทำงาน การจัดการภาวะเบื่องานอย่างเหมาะสมจะช่วยให้พนักงานกลับมามีแรงจูงใจและรู้สึกมีส่วนร่วมในการทำงานได้อีกครั้ง
ภาวะหมดไฟ (Burnout) การป้องกัน Burnout จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการพักผ่อนที่เพียงพอ การแบ่งเวลาสำหรับการทำงานและการพักผ่อนอย่างสมดุลช่วยลดความเหนื่อยล้า พนักงานควรมีเวลาหยุดพักระหว่างวันทำงาน เช่น การเดินเล่นหรือทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายความเครียด นอกจากนี้ การสนับสนุนจากหัวหน้างานและเพื่อนร่วมงาน รวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่เข้าใจและช่วยลดความกดดันในการทำงาน จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิด Burnout
ภาวะหมดใจ (Brownout) การแก้ไขภาวะหมดใจสามารถทำได้ผ่านการพัฒนาการสื่อสารภายในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ พนักงานที่รู้สึกว่าไม่มีพลังใจในการทำงานควรได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารและทีมงาน การสร้างสภาพแวดล้อมที่เปิดโอกาสให้พนักงานแสดงความคิดเห็น ช่วยเพิ่มความพึงพอใจและแรงจูงใจในการทำงาน อีกทั้งยังควรเน้นการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในที่ทำงาน รวมถึงการปรับปรุงระบบการสื่อสารระหว่างทีม เพื่อสร้างบรรยากาศที่สนับสนุนและสร้างแรงกระตุ้นในการทำงาน
Checklist อาการของแต่ละภาวะ
ภาวะเบื่องาน (Boreout)
- รู้สึกว่างานที่ทำซ้ำซากและน่าเบื่อ
- ขาดความท้าทายและไม่รู้สึกสนุกกับงาน
- รู้สึกว่าเวลาทำงานผ่านไปช้า
- มักหาเรื่องผัดวันประกันพรุ่งหรือพยายามดูยุ่งแต่ไม่เกิดผล
- รู้สึกขาดแรงบันดาลใจและไม่สามารถใช้ทักษะหรือความสามารถของตนได้เต็มที่
ภาวะหมดไฟ (Burnout)
- รู้สึกเหนื่อยล้าและหมดพลังงานตลอดเวลา
- ขาดแรงจูงใจและความกระตือรือร้นในการทำงาน
- รู้สึกไม่มีความสุขหรือไม่พอใจในงานที่ทำ
- ขาดประสิทธิภาพในการทำงานและรู้สึกเครียดต่อเนื่อง
- มีแนวโน้มที่จะห่างเหินหรือไม่อยากสื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน
ภาวะหมดใจ (Brownout)
- รู้สึกขาดความหมายหรือไม่ผูกพันกับงาน
- ทำงานแบบอัตโนมัติโดยไม่รู้สึกพอใจ
- ไม่รู้สึกว่าตนเองมีส่วนร่วมในองค์กร
- รู้สึกเบื่อหน่ายกับงานและมองหางานใหม่อยู่บ่อยๆ
- ขาดความกระตือรือร้นในการทำงานและรู้สึกห่างเหินจากเพื่อนร่วมงาน
หากพบว่ามีอาการเหล่านี้หลายข้อและเริ่มส่งผลกระทบต่อความสุข ความพึงพอใจในงาน หรือคุณภาพชีวิต ควรติดต่อนักจิตบำบัดเพื่อรับคำปรึกษาและหาวิธีจัดการกับภาวะเหล่านี้อย่างเหมาะสม นักจิตบำบัดสามารถช่วยวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่แท้จริงของความรู้สึกเหล่านี้ และแนะนำแนวทางในการปรับมุมมองหรือวิธีจัดการกับความเครียดในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ นักจิตบำบัดยังสามารถช่วยเสริมสร้างทักษะการจัดการอารมณ์ ให้คำแนะนำในเรื่องการสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้คุณรับมือกับภาวะที่กำลังเผชิญได้อย่างมีประสิทธิภาพและฟื้นฟูความสุขในการทำงานและชีวิตได้อย่างยั่งยืน
สำหรับองค์กรหรือบริษัทที่ต้องการดูแลพนักงานเกี่ยวกับ ภาวะหมดไฟ Counselling Thailand มีบริการให้คำปรึกษาสำหรับพนักงานในรูปแบบส่วนตัว รวมถึงจัดโปรแกรมอบรมและเวิร์กช็อปเฉพาะทางที่มุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เอื้อต่อสุขภาพจิตและความยั่งยืนในองค์กร
บริการของเราครอบคลุมทั้งการประเมินปัญหาภายในทีม การสร้างแผนการดูแลเชิงกลยุทธ์ และการให้คำปรึกษาแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยพนักงานรับมือกับความเครียด ปรับปรุงความพึงพอใจในงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในระยะยาว